คิดบวกปรับเปลี่ยนทัศนะชีวิตให้สมบูรณ์
ความคิดสร้างการกระทำ ถ้าคิดเหมือนเดิมจะทำเหมือนเดิม แต่ถ้าคิดใหม่จะทำใหม่ ถ้าเราเปลี่ยนความคิด การกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน "เริ่มต้นทุกวันด้วยการ
คิดดี" ประโยคเล็ก ๆ ที่สามารถยึดโยงสมองและหัวใจ ไปสู่เรื่องราวดี ๆ เพิ่มความใหม่สดให้ชีวิต ก่อให้เกิดความสุขในแง่มุมของการหาเลี้ยงชีวิตและการใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
"ทำชีวิตให้คิดบวก" ฟังดูง่าย แต่หลายคนก็ไปไม่รอด เพราะโดยธรรมชาติของคนเราสมัครใจที่จะคิดลบก่อนคิดบวกเสมอ และเลือกที่จะเพ่งโทษต่อผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม โดยละ
เว้นตัวเองเอาไว้ในฐานะคนพิเศษในทุกกรณี
ในชีวิตของคนเราทุกคน ไม่ว่าจะได้แต้มหรือเสียแต้ม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกนับเอาไว้ทั้งหมด (everything counts) ในสมุดบัญชีของชีวิต เคยทำบาปเอาไว้มาก แล้ว
ถึงจุดหนึ่งถมทำบุญไถ่โทษ ก็ใช่ว่าจะบวกลบกลบหนี้กันได้ "ทุกอย่างที่เราทำจะถูกนับเอาไว้หมดในสายตาผู้คน ฉะนั้นแล้วเวลาที่เราคิดจะทำอะไร ให้หัดคิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่น
เอาไว้ด้วย ต้องฝึกคิดบวกในใจตัวเอง ขอให้คิดเข้ามาว่า ทุกอย่างเป็นความรู้สึกที่ดี เราต้องไม่ทำร้ายระบบดี ๆ ของสังคม ถูกผิดอยู่ที่ตัวเรา อยากให้คนรักเรา เกรงใจเรา ก็ต้อง
ทำดี เมื่อคิดดีแล้วชีวิตก็จะติดบวก คนเราไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง ทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง แต่เราสามารถเลือกที่จะทำให้ดีได้ในทุกวัน เพราะเป็นตัวเพิ่มแต้มบวกอย่างเดียวเลย"
คนที่มีทัศนคติเชิงบวกมาก ๆ จะเป็นคนที่สามารถดูแลตัวเองได้ดี การฝึกตัวเองให้คิดบวกก่อนคิดลบ จึงเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ทำร้ายผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งกาย
วาจาและใจ "คนเราไม่มีใครดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเรามีสติ ทุกครั้งที่โกรธ แค่เราปิดปากตัวเองเอาไว้ ไม่พูดตอนโมโห ก็ไม่มีใครต้องเจ็บใจ เพราะแค่เราโมโห เราก็ติดลบ
แล้ว"
ท่ามกลางความเจริญทางด้านวัตถุและเทคโนโลยี ดูเผิน ๆ เหมือนเราจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นในสังคมยุคใหม่ แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้วการดูแลจิตใจให้อยู่รอดปลอดภัย กลับ
เป็นเรื่องยากเย็นพอ ๆ กับเข็นครกขึ้นเอเวอร์เรส ดังนั้นการเปลี่ยนมาคิดบวก จึงเป็นการยกปัญหาเท่าภูเขาให้เบานุ่มในจิตใจ ด้วยการหันมา "คิดดี ทำดี ผลลัพธ์ดี"
"คนเราถ้าไม่คิดจะเปลี่ยน จะไม่มีวันเปลี่ยน เพราะความคิดสร้างการกระทำ ถ้าเราคิดเหมือนเดิมจะทำเหมือนเดิม แต่ถ้าคิดใหม่จะทำใหม่ ถ้าเราเปลี่ยนความคิด การ
กระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์เปลี่ยน ได้สิ่งใหม่ เมื่อเราทำได้ เราก็จะได้ แล้วเราก็จะเดินหน้าทำต่อ"
วิธีสร้างความคิดบวกแบบง่ายๆ ก็คือ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการคิดดี มองทุกคนในแง่ดี พูดแต่สิ่งดีๆ มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ ตราบเท่าที่พระอาทิตย์ยังคงขึ้นทาง
ทิศตะวันออก ฉะนั้นเราควรเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา และเลือกที่จะทำในสิ่งที่รักอย่างมีความสุข
ปัจจุบันการมี Positive thinking หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าชีวิตคิดบวกนั้นกำลังเป็นที่แพร่หลายในสังคม ทั้งนี้น่าจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่คนเราในสมัยนี้ใช้ชีวิตกัน
อย่างค่อนข้างเคร่งเครียดก็เป็นไปได้ ดังนั้นการที่เราจะมองปัญหาในอีกด้านเพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นก็นับเป็นเรื่องที่ดี และถือว่าเป็นการเข้าใจโลกในอีกแง่มุมหนึ่งที่สามารถทำ
ให้สบายใจ คลายเครียดไปได้ช่วงหนึ่ง มีวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันได้ง่าย ๆ ดังนี้
ถ้าโกรธกับเพื่อน มองคนไม่มีใครรัก ถ้าเรียนหนัก มองคนที่เขาอดเรียนหนังสือ
ถ้างานลำบาก มองคนอดแสดงฝีมือ ถ้าเหนื่อยงั้นหรือ มองคนตายที่หมดลม
ถ้าขี้เกียจนัก มองคนที่ไม่มีโอกาส ถ้างานผิดพลาด มองคนที่ไม่เคยฝึกฝน
ถ้ากายพิการ มองคนไม่เคยอดทน ถ้างานรีบรน มองคนไม่มีเวลา
ถ้าตังค์ไม่มี มองขอทานข้างถนน ถ้าหนี้สินล้น มองคนแย่งกินกับหมา
ถ้าข้าวไม่มีกิน มองคนไม่มีที่นา ถ้าใจอ่อนล้า มองคนที่ไม่รู้จักความรัก
ถ้าชีวิตแย่ มองคนที่แย่กว่า อย่ามองแต่ฟ้า ที่สูงเกินตาประจักษ์ ความสุขข้างล่าง มีได้ไม่ยากเย็น
พียงแค่นี้จิตใจคุณจะเป็นสุขขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ขอเพียงคุณไม่หยุดที่จะพัฒนาความคิดให้เป็นบวก คุณก็จะได้พบมุมมองใหม่ที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้ นอกจาก
มุมที่คุณคิด และสร้างขึ้นมาด้วยตัวของคุณเอง การเลื่อนชั้นความสุขให้กับตัวเอง เราต้องถามตัวเองทุกวัน ว่าวันนี้เราได้เผอเรอทำอะไรผิดพลาดไปไหม แล้วจะแก้ไขสิ่งที่เคย
พลั้งไปได้อย่างไร ถ้าเราเป็นหัวหน้ามีทั้งลูกน้องและเจ้านาย การหยิบมุมคิดเชิงบวกมาใช้ในงานคือ การดูแลใส่ใจคนรอบข้าง 360 องศาให้เท่ากัน ไม่ให้เจ้านายมองว่ากำลัง
ถูกพะเน้าพะนอจน over และมองข้ามความใส่ใจลูกน้องถึงขั้น under เพราะการได้แต้มหรือเสียแต้มจากทั้งเจ้านายและลูกน้อง อยู่ที่ความคิดและการกระทำของเราเพียง
คนเดียว





0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น